วันเวลาแสนดีในอดีตกำลังกลับมาสู่ตลาด Forex อีกครั้ง! ตลาดสกุลเงินนานาชาติเริ่มปรับตัวให้ชินกับคำขู่และข้อตกลงทางการค้าของ Donald Trump และหันกลับมาให้ความสนใจกับธนาคารกลางอีกครั้ง แม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะพยายามดึงความสนใจไปที่ตัวเขาเองก็ตาม เขาได้กำหนดอัตราภาษีศุลกากร 15% กับเกาหลีใต้ และ 25% กับอินเดีย ทำเนียบขาวไม่พอใจกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดของเดลีและมอสโก อย่างไรก็ตาม EUR/USD นั้นให้ความสำคัญกับนโยบายการเงินมากกว่า

ดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นตัววัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ นิยมใช้ ขยับขึ้นเป็น 2.6% ในเดือนกรกฎาคม ขณะที่ พื้นฐาน PCE ก็เพิ่มขึ้นเช่นกันเป็น 2.6% ในรอบปี โดยตัวเลขทั้งสองสูงกว่าแบบคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ของ Bloomberg เป็นผลให้ตลาดล่วงหน้าคาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพียงครั้งเดียวในปี 2025 นี้ทำให้กลยุทธ์การขาย EUR/USD ยังคงดำเนินต่อไปได้

แนวโน้มเงินเฟ้อในสหรัฐฯ

ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบสิบเดือน ในเดือนกรกฎาคม ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีชะลอตัวลงจาก 2% เป็น 1.8% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ ECB ต่อเนื่องในปีนี้ สาเหตุที่นักลงทุนถูกดึงกลับไปอาจเป็นเพราะวาทศิลป์ที่รอบคอบของ Jerome Powell และ Christine Lagarde

จริงๆ แล้ว ในเดือนกรกฎาคม มีฝ่ายไม่เห็นด้วยสองคนใน FOMC ที่ลงคะแนนให้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินทุนของรัฐบาลกลาง มีความเป็นไปได้ว่าทั้ง Christopher Waller และ Michelle Bowman ซึ่งทั้งคู่ได้รับการแต่งตั้งโดยผู้ครอบครองทำเนียบขาวในปัจจุบัน กำลังกระทำตามคำสั่งของ Donald Trump อย่างไรก็ดี การตัดสินใจจะทำไปโดยข้อสรุปร่วมกันของผู้ว่าการทั้งเจ็ดคนในคณะกรรมการตลาดเปิดของรัฐบาลกลางและประธานธนาคารกลางสาขาในภูมิภาคอีกห้าคน แม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐจะสามารถปลดประธาน Fed ได้ แต่มันก็ไม่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดการผ่อนคลายนโยบายการเงินรอบใหม่ นั่นเป็นเรื่องที่ดีต่อดอลลาร์สหรัฐ

พลวัตของเงินเฟ้อในเยอรมนี

ไม่ใช่ทุกประเทศที่รีบร้อนทำข้อตกลงการค้ากับวอชิงตัน ทรัมป์เตือนว่าจะส่งหนังสือเกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่มีอัตราอยู่ระหว่าง 15% ถึง 50% อย่างไรก็ตาม มีการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการลงทุนและการซื้อผลิตภัณฑ์พลังงานจากสหรัฐอเมริกากับญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และเกาหลีใต้ ประเทศอื่นๆ ปฏิเสธ การไม่พอใจของประธานาธิบดีบ่งชี้ว่าความขัดแย้งทางการค้าอาจทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคม

หากสิ่งนี้เกิดขึ้น ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการปรับฐานในดัชนีหุ้นของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจโลกที่แย่ลงจะทำให้ความต้องการสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยเพิ่มขึ้น การที่ดอลลาร์ยังคงสถานะนี้อยู่ได้รับการยืนยันจากความสัมพันธ์ผกผันระหว่าง S&P 500 และ USD Index

ในทางเทคนิค แผนภูมิรายวันของ EUR/USD แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวที่เป็นการปรับฐานหรืออาจเป็นการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้น ตามรูปแบบ 1-2-3 การลดลงของค่าเงินคู่ต่ำกว่า 1.140 จะเปิดประตูสู่การเพิ่มตำแหน่งขาย เป้าหมายนั้นยังคงอยู่ที่ 1.128